SETTRADE.COM - SAA Consensus หุ้นที่มีการ update วันนี้

Thursday, May 28, 2009

สัปดาห์ลุ้นระทึก 'สองบิ๊กดีทรอยต์' เชื่อ GM ขอล้มละลายตามไครสเลอร์

(ผู้ จัดการออนไลน์) : เข้าสู่สัปดาห์ของการลุ้นระทึกในดีทรอยต์ ที่ลงท้ายพี่ใหญ่จีเอ็มอาจถูกบีบให้ล้มละลาย และค่ายรถอันดับ 3 ไครสเลอร์หลุดพ้นจากการคุ้มครองของศาลอย่างรวดเร็ว โดยโอบาม่าแสดงความเชื่อมั่นว่าทั้งสองบริษัทจะกระฉับกระเฉง มุ่งมั่นและมีศักยภาพการแข่งขันมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้น

รายงาน ข่าวกล่าวว่า ขณะนี้มีความเห็นพ้องกันมากขึ้นว่าเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ที่จะถึงกำหนดเส้นตายในการยื่นแผนปรับโครงสร้างหรือถูกตัดความช่วยเหลือจาก รัฐในวันที่ 1 เดือนหน้านั้น คงจะเลือกขอรับการคุ้มครองจากศาลล้มละลาย แม้กระทั่งเมื่อแผนปรับโครงสร้างผ่านความเห็นชอบจากวอชิงตันในนาทีสุดท้ายก็ ตาม

ล่า สุด จีเอ็มบรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับสหภาพแรงงานยานยนต์ (ยูเอดับเบิลยู) เรื่องการแปลงหนี้ที่บริษัทติดค้างอยู่ให้เป็นหุ้นสามัญ แต่ยังต้องขอให้สมาชิกสหภาพลงคะแนนเห็นชอบกันต่อไป และ ในวันอังคาร (26) จีเอ็มก็จะขอไฟเขียวจากผู้ถือหุ้นกู้ที่มีมูลค่ารวมกันสูงถึง 27,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับแผนปรับโครงสร้าง

ทั้ง นี้ ปัญหาเรื่องผู้ถือหุ้นกู้ของจีเอ็มนั้น มีขนาดใหญ่โตกว่าไครสเลอร์มาก เพราะฝ่ายหลังมีเจ้าหนี้เพียงร้อยกว่าราย แต่จีเอ็มมีเจ้าหนี้เป็นสถาบันการเงินใหญ่กว่า 120 แห่ง ไม่นับรวมผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกราวแสนคน เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ของจีเอ็มจำนวนไม่น้อยกำลังโวยวายว่า จีเอ็มภายใต้การผลักดันของรัฐบาล กำลังเรียกร้องการเสียสละจากพวกเจ้าหนี้ ยิ่งกว่าทางสหภาพแรงงานและฝ่ายอื่นๆ

เคน อีเกิลเก แห่ง แคปิโตล ซีเคียวริตีส์ แมเนจเมนต์ บอกว่า ตามแผนการของรัฐบาลที่มีการรายงานข่าวกันนั้น พวกถือหุ้นกู้ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ที่ต้องมีฐานะเหนือ เจ้าหนี้อื่นๆ กลับจะต้องยกหนี้จำนวนถึง 27,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับหุ้นเพียง 10% ในบริษัทจีเอ็มหลังปรับโครงสร้างใหม่ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯและฝ่ายสหภาพแรงงานที่ยกหนี้จำนวน 20,000 ล้านดอลลาร์ จะได้หุ้นจีเอ็มใหม่เป็นจำนวนถึง 89%

กระนั้น ก็ตาม ดักลาส เบิร์นสไตน์ นักกฎหมายในมิชิแกนที่เป็นตัวแทนของซัปพลายเออร์ยานยนต์ในกรณีไครสเลอร์ เชื่อว่าผู้ถือหุ้นกู้ของจีเอ็มไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับแผน ดีกว่าต้องแทงบัญชีหนี้สูญ

ผู้ เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่า แม้แต่เมื่อแผนลดต้นทุนของจีเอ็มผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐบาลประธานาธิบดีบา รัค โอบาม่า ตามเส้นตายที่ให้ไว้เมื่อปลายเดือนมีนาคม แต่พี่ใหญ่แห่งดีทรอยต์รายนี้ก็อาจเลือกขอความคุ้มครองจากศาลล้มละลายเพื่อ หลีกเลี่ยงการถูกดีลเลอร์ฟ้องร้อง เนื่องจากบริษัทมีแผนลดเครือข่ายดีลเลอร์ลง 40% และปิดโชว์รูม 2,300 แห่งภายในปลายปีหน้า

สำหรับ ทางด้านไครสเลอร์นั้น กำลังรอคำวินิจฉัยสำคัญจากศาลล้มละลายในวันพุธ (27) ที่จะเปิดทางให้บริษัทสามารถขายธุรกิจหลักให้บริษัทไครสเลอร์ใหม่ ที่มีเฟียตร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเท่ากับสามารถเดินหน้าปรับโครงสร้างเพื่อสะสางปัญหาอย่างรวดเร็วตาม ที่รัฐบาลคาดหวัง เนื่องจากจะทำให้ไครสเลอร์หลุดพ้นจากสภาพล้มละลายกลายเป็นบริษัทใหม่ที่ บริหารโดยเฟียตจากอิตาลี แต่มีสหาภาพแรงงานยูเอดับเบิลยูถือหุ้นใหญ่ และรัฐบาลสหรัฐฯ และแคนาดาถือหุ้นบางส่วน

อย่าง ไรก็ตาม บรูซ เบลโซวสกี้ จากสถาบันวิจัยด้านการขนส่งของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ชี้ว่าการรวมพลังระหว่างไครสเลอร์-เฟียตยังต้องเจอความท้าทายอีกมาก อาทิ สภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ในภาวะถดถอย

ทว่า ดานา จอห์นสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของคอมเมอร์เชียล แบงก์ มองต่างมุมว่าหลังจากสะสางหนี้และต้นทุนอื่นๆ แล้ว ไครสเลอร์-เฟียตอาจฟื้นตัวได้ นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดว่าเศรษฐกิจจะถึงจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งหมายถึงแนวโน้มขาขึ้นของยอดขายรถยนต์ที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้

เด วิด โคล ประธานศูนย์เพื่อการวิจัยด้านยานยนต์ในมิชิแกน ขานรับว่าสถานการณ์ของผู้เล่นในดีทรอยต์จะดีขึ้น หลังลดต้นทุนจากการลดศักยภาพการผลิต รวมถึงตัดค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายออกไป อันจะทำให้จุดคุ้มทุนอยู่ที่ยอดขายเพียงปีละ 10 ล้านคัน ลดจาก 15-16 ล้านคันในขณะนี้ ซึ่งจากการคาดหมายว่ายอดขายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 13-14 ล้านคัน จึงหมายความว่าผู้เล่นจะมีศักยภาพการทำกำไรสูงขึ้น

มุม มองแง่ดีเหล่านี้สอดรับกับการให้สัมภาษณ์ของโอบาม่าต่อสถานีทีวีสเปนเมื่อ วันเสาร์ (23) หรือเพียงหนึ่งวันหลังจากกระทรวงคลังสหรัฐฯ อัดฉีดเงินเพิ่มให้จีเอ็มจนขณะนี้ยอดรวมเป็นกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์

ผู้ นำแดนอินทรีแสดงความเชื่อมั่นว่าทั้งจีเอ็มและไครสเลอร์จะกลับมาใหม่ในสภาพ ที่กระฉับกระเฉง มุ่งมั่นและมีศักยภาพการแข่งขันมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้น ด้วยสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดึงดูดใจลูกค้า นั่นคือรถแห่งอนาคตที่ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้โอบาม่าไม่ได้เอ่ยถึงทางเลือกของจีเอ็มในการล้มละลาย แต่ได้แสดงความกังวลต่อผลที่อาจเกิดตามมาจากการปลดแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์

No comments:

Post a Comment